ภาวะหมดไฟในชีวิต (Burnout)

ภาวะหมดไฟในชีวิต (Burnout) เป็นภาวะของความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ ความรู้สึกหมดแรง ไร้ความหมาย ไร้จุดหมาย มักเกิดจากความเครียดสะสมเป็นเวลานาน บางทีก็ทำให้เหมือนไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรเลยในตอนเช้า มันเหมือนกับ เหตุผลในการตื่นนอนตอนเช้ามันหายไป

สาเหตุของภาวะหมดไฟในชีวิตนั้นมีหลายปัจจัย ดังนี้

  • ความเครียดจากการทำงาน การทำงานที่หนักเกินไป ปริมาณงานมาก ภาระงานสูง ปัญหาในที่ทำงาน ความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน หรือลูกค้า ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหมดไฟได้
  • ความเครียดจากชีวิตส่วนตัว ปัญหาครอบครัว ปัญหาความสัมพันธ์ ปัญหาสุขภาพ ปัญหาการเงิน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหมดไฟได้เช่นกัน
  • ความเครียดจากการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น การเปลี่ยนงาน การเปลี่ยนที่อยู่อาศัย การเปลี่ยนสถานภาพ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหมดไฟได้
  • ความเครียดจากการรับข้อมูลข่าวสารโดยไม่จำเป็น การรับรู้ข่าวสารที่มากเกินไป ในปัจจุบันมีสื่อข่าวสารมากมายที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารให้เราได้รับรู้อยู่ตลอดเวลา หากเรารับข้อมูลข่าวสารมากเกินไป อาจทำให้สมองเกิดความเครียดและวิตกกังวลได้

หากรู้สึกหมดไฟในชีวิต คำแนะนำเบื้องต้นคือ ลองหาสาเหตุของภาวะหมดไฟ เมื่อทราบสาเหตุแล้ว จะสามารถหาแนวทางแก้ไขได้ตรงจุด

ซึ่งแนวทางแก้ไขเบื้องต้นก็คือ

กำหนดขอบเขต กำหนดขอบเขตระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวให้ชัดเจน ไม่ให้งานเข้ามารบกวนชีวิตส่วนตัวมากเกินไป

เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ เรียนรู้ที่จะปฏิเสธงานหรือภาระหน้าที่ที่เกินความสามารถหรือเกินเวลา

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลต่อภาวะหมดไฟ เช่น ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สมดุล ออกกำลังกายเป็นประจำ

พักผ่อนให้เพียงพอ หากิจกรรมที่ชอบทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด ฟังเพลงที่เป็นดนตรี บรรเลง เบาๆ ออกไปเดินตามสวนสาธารณะที่คนไม่เยอะมาก

ลดการเสพสื่อ ตามข่าว ด้วยความที่สภาพจิตใจช่วงนี้ของเราไม่ค่อยพร้อม การถอยห่างออกจากโลกออนไลน์ ยกเลิกการติดตามรับข่าวสารที่ไม่จำเป็นกับชีวิต นั้นมีส่วนช่วยให้เรา recover ได้เร็ว

ลองหาหนังสือดีๆอ่าน อาจจะเป็นเรื่องที่อ่านแล้วคลายเครียด หนังสือเนื้อหาไม่หนักมาก

หากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว อาการของภาวะหมดไฟจะค่อย ๆ ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต