หากในแต่ละวันของคุณล้วนเต็มไปด้วยเรื่องของการทำงาน และปัญหาสารพันจนทำให้ไม่มีเวลาได้หยุดพักแล้วหันมาสังเกตตัวเองเลยว่าตอนนี้สุขภาพของคุณเป็นอย่างไร
และถ้าหากยังปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตนเองให้ดี ก็จะยิ่งทำให้คุณดูย่ำแย่และเจ็บป่วยเอาได้ ดังนั้น ก่อนที่ชีวิตจะเสียสมดุลไปมากกว่านี้ ลองหยุดแล้วหันมองหา 3 สัญญาณเตือน
เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตเสียใหม่ ให้กลับมาเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง และเป็นคนที่สดใสอยู่เสมอ ซึ่ง 3 สัญญาณเตือนที่ว่า ได้แก่
สัญญาณทางจิต
หากในระยะหลังๆ นี้ เริ่มรู้สึกว่ามีอาการหงุดหงิดง่าย ขี้โมโห ไม่อยากจะสังสรรค์หรือเสวนากับใคร มีอาการวิตกกังวล เริ่มบ่นหรือตัดพ้อถึงเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจอยู่บ่อยๆ ไม่มีสมาธิในการทำงาน รวมไปถึงการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ก็ไม่ดีเท่าที่ควร ดังกล่าวนี้ ถือเป็นวาระที่คุณจะต้องหาเวลาคลายความเครียด และพักผ่อนให้มากขึ้น อาจใช้เวลาหลังเลิกงานไปดูหนัง ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติ เพื่อทำให้ชีวิตน่ารื่นรมย์ขึ้น รวมทั้งลืมเรื่องที่น่าปวดหัวต่างๆ ไปได้
สัญญาณทางกาย
หากรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเจ็บป่วยบ่อยหรือมีอาการหวัด ปวดศีรษะ เป็นผื่นคล้ายคนเป็นภูมิแพ้ ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีหน้าตาซีดเซียว เหนื่อยง่าย หรือรู้สึกว่านอนเท่าไรก็ไม่เต็มอิ่ม นั่นคือสัญญาณเตือนให้รู้ว่าร่างกายของคุณเริ่มอ่อนแอและเสียสมดุลเข้าแล้ว จึงควรได้เวลาหันมาใส่ใจกับอาหารการกินให้มากขึ้น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าเครียด และควรให้เวลาไปกับการออกกำลังกายบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
สัญญาณจากการจัดสรรเวลา
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เมื่อถึงวันหยุดก็ยังคงนั่งทำงานหรือให้เวลาไปกับการทำงานจนลืมนึกถึงทุกคนที่อยู่รอบข้าง นี่คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะแสดงให้เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณจัดสรรเวลาไม่ถูกต้อง ดังนั้น อย่าลืมว่าคนเราต้องมีชีวิตส่วนอื่นที่ได้กระทำร่วมกับคนที่เรารัก และร่างกายรวมทั้งจิตใจก็ต้องการการจัดสรรเวลาสำหรับการพักผ่อนเช่นกัน
ต่อไปนี้ลองจดบันทึกประจำวันดูว่าคุณใช้เวลาในแต่ละวันไปกับกิจกรรมใดบ้าง แล้วพิจารณาจัดสรรเวลาให้ได้สัดส่วนเสียใหม่ เพื่อจะได้มีชีวิตที่ลงตัว และไม่เสียสมดุลอีกต่อ