เพราะความเร่งรีบ สับสน วุ่นวายของโลกในยุคปัจจุบันที่ผู้คนล้วนแต่แสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต
จนกลายเป็นโรคเสพติดความเครียดไปโดยไม่รู้ตัว เพราะลืมไปว่า แท้จริงแล้วคนเราต้องการเพียงชีวิตที่สมดุลเท่านั้น
ดังนั้น หากปรารถนาชีวิตที่ลงตัว ลองหันมาสร้างสมดุลเพื่อคืนความสุขให้กับชีวิต ด้วยข้อคิดดีๆ ต่อไปนี้
1.เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ จงจำแนกให้ได้ว่าอะไรคือความหมายของคำว่า “มีคุณค่า” “ความจำเป็น” และ“ความต้องการ” แล้วเลือกคำตอบที่ดีที่สุด เพราะการให้ความสำคัญกับคำใดคำหนึ่งอย่างสมเหตุสมผลจะทำให้ชีวิตไม่ต้องเหนื่อยเกินไปกับทุกๆ เรื่อง เพื่อแลกกับสิ่งที่จะได้มา
2.ทำให้เส้นกั้นระหว่างชีวิตครอบครัวกับชีวิตของการทำงานให้เป็นเส้นที่บางที่สุด ด้วยการแบ่งเวลาระหว่างชีวิตทั้งสองอย่างให้สมดุลกัน อย่าหอบงานกลับมาทำที่บ้านแบบพร่ำเพรื่อ แล้วหันมาใส่ใจกับร่างกายของตัวเองบ้าง อาจเป็นการนอนตื่นสายสักวันในวันหยุด หรือปรนนิบัติร่างกายด้วยการนวดหรือทำสปาบ้างก็จะดี
3.วางแผนการทำงานเสียใหม่ ด้วยการจัดลำดับว่าอะไรควรทำก่อนอะไรควรทำทีหลัง แล้วทุ่มเทหรือมีสมาธิกับการทำงานให้มากขึ้น โดยจำไว้ว่าคุณไม่ได้เกิดมาเพื่อทำทุกอย่าง แต่จงทำแค่บางอย่างให้ดีที่สุดที่เหมาะกับตัวเองเท่านั้น และรู้จักปฏิเสธเสียบ้างถ้าไม่อยากหัวปั่นเพราะการพยายามเป็นคนดีไปเสียทุกเรื่อง
4.หยุดพักและเถลไถลดูบ้าง ด้วยการงดกิจกรรมทุกอย่างที่ปฏิบัติเป็นกิจวัตรมาตลอดระยะเวลาของการทำงาน อาจเป็นวิธีการปิดการสื่อสารทั้งปวง แล้วหันมาดูหนังฟังเพลง อ่านนิยาย หรือทำงานอดิเรก ซึ่งนอกจากจะช่วยเติมพลังให้กับร่างกายแล้ว คุณอาจจะเข้าใจหลักสำคัญของการมีชีวิตที่สมดุลมากขึ้นว่า งานที่ทำให้เกิดรายได้นั้นไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความสุขต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า
5.สุดท้ายคือ มัชฌิมาปฏิปทาหรือทางสายกลาง หมายถึง การใช้ชีวิตให้พอดี ไม่เครียด หรือสุดโต่งเกินไปจนเป็นการทรมานตนเองให้ลำบาก หรือหย่อนยานเกินไปจนจับหลักให้กับชีวิตไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดคือบทสรุปของการสร้างความสมดุลให้กับชีวิต