4 เคล็ดลับ ปรับจิต ให้ชีวิตผ่านเรื่องเครียดไปได้อย่างสบาย

เคยไหม เมื่อคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดจากสภาวะที่กดดันต่างๆ เช่น เครียดเรื่องความรัก ครอบครัว หนี้สิน โดนลูกค้าวีนใส่ หรือถูกไล่ออกจากงานประจำ ฯลฯ เป็นต้น

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สิ่งเหล่านี้มักจะส่งผลไม่ดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ เชื่อว่าหลายคนคงยังไม่รู้ว่าพิษของ “ความเครียด” ก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าที่คุณคิด

เพราะทุกครั้งที่คุณเครียด สารเคมีในสมองจะขาดความสมดุล สารสื่อประสาทชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า นอร์เอพิเนฟริน (Nor-epinephrine) จะหลั่งออกมาในปริมาณที่สูง ซึ่งจะไปกระตุ้นให้หัวใจเต้นแรงขึ้น ฮอร์โมนแปรปรวน และมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง

ทั้งหมดนี้เรากำลังจะบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องไปจำชื่อสารเคมีในระบบประสาทให้ปวดหัว เพราะสิ่งที่คุณต้องตระหนัก คือ รู้และเข้าใจว่าความเครียดทำให้เกิดผลเสียต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อสุขภาพแน่นอน

ดังนั้น วันนี้เราจะมาแชร์ 4 เคล็ดลับ ปรับจิต ให้ชีวิตผ่านเรื่องเครียดไปได้อย่างสบาย รับลองเลยว่าทั้ง 4 วิธีนี้ จะช่วยให้คุณหายเครียดได้อย่างแน่นอน

1.กำหนดลมหายใจ

ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่เชื่อหรือไม่ว่าเวลาต้องตกอยู่ในสภาวะที่กดดัน หรือต้องเผชิญหน้ากับความเครียดจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนเราจะตั้งสติได้ทันทีทันใด ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเรามักเห็นข่าวอาชญากรรมมากมายในปัจจุบัน

ผู้คนจำนวนมากทำเรื่องที่ไม่คาดคิดเพียงเพราะขาดสติ และวิธีที่สามารถเรียกสติกลับคืนมาได้ดีที่สุดคือ การกำหนดลมหาย ลองหายใจใจเข้าลึกๆ และหายใจออกยาวๆ หรือใครจะนับหนึ่งถึงร้อยก็ไม่เลว

การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบันและมีสติมากขึ้น ฝึกทำแบบนี้บ่อยๆ จนกลายเป็นนิสัย นอกจากจะช่วยลดความตึงเครียดแล้ว ยังทำให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองมากขึ้น บางครั้งคุณอาจจะฉุดคิดไอเดียดีๆ และมองเห็นทางออกขึ้นมาก็ได้นะ

2.เปลี่ยนจุดโฟกัส

เมื่อเราโฟกัสสิ่งไหน สิ่งนั้นมักจะขยายเพิ่มมากขึ้นเสมอ ยกตัวอย่างเช่น เคยไหม เวลาที่เราอยากซื้อรถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง เคยสังเกตุไหมว่าทำไมมีแต่รถยนต์ยี่ห้อนั้น ซึ่งเป็นคันที่เราอยากได้ วิ่งเกลื่อนถนนเต็มไปหมด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ

นั่นเป็นเพราะว่าเรากำลังไปโฟกัสกับสิ่งนั้นๆ จึงทำให้เรามองเห็นสิ่งนั้นเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ความเครียดก็เช่นเดียวกัน ยิ่งเราไปคิดกังวลกับมันมากเท่าไหร่ ปัญหานั้นก็จะยิ่งขยายใหญ่ขึ้นเสมอ

ลองเปลี่ยนจุดโฟกัส ลองหากิจกรรมใหม่ๆ ทำยามว่าง ออกไปเที่ยวบ้าง ทำอะไรสนุกๆ อย่าปล่อยให้ความคิดนั้นฟุ้งซ่านวนเวียนอยู่ในหัวของเรา วิธีนี้ไม่ใช่การวิ่งหนีปัญหาแต่เป็นการพาตัวเองไปสู่จุดที่ดีกว่า เมื่อสารแห่งความสุขได้หลั่งออกมาแล้ว สมองจะทำงานได้ดีขึ้น หลังจากนั้นแล้วค่อยมาหาวิธีคิดแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ

 

3.ให้ธรรมชาติบำบัด

นักวิจัยพิสูจน์แล้วว่าธรรมชาติช่วยลดความเครียดได้ และยังช่วยไม่ให้เรากลายเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย จากการศึกษาของนักวิจัยพบว่า คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทจะมีร่างกายที่แข็งแรง นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้สัมผัสกับธรรมชาติ ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี ป่าเขาลำเนาไพร จึงทำให้มีความสุข ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพ

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า สีเขียว ช่วยให้มนุษย์เกิดความคิดที่สร้างสรรค์ เมื่อได้อยู่ใกล้กับสีนี้สารแห่งความสุขจะถูกหลั่งออกมาเพิ่มมากขึ้น ระดับความตึงเครียดลดน้อยลง ดังนั้นการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบจะช่วยตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้ดีที่สุด การได้ยินเสียงนก เสียงลม ฟังเสียงน้ำในลำธารไหลไปตามกระแส จะทำให้เรารู้สึกถึงความผ่อนคลาย

คุณลองหาวันหยุดลาพักร้อนไปเที่ยวชมและสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามดูสิ รับลองได้เลยว่ามันจะช่วยฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของคุณได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

 

4.ชื่นชมตัวเอง

ทุกครั้งที่ต้องตกอยู่ในภาวะของความเครียด ผู้คนส่วนใหญ่มักกล่าวโทษตัวเองเพราะยังไม่สามารถจัดการปัญหานั้นได้ดีพอ และมักจะลงเอยด้วยการตัดสินใจทำอะไรที่ผิดพลาด แก้ไขปัญหาด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ให้อารมณ์ตัดสินแทนเหตุผล สุดท้ายความเครียดนั้นก็จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักคือ เราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้ แต่อย่างน้อยเราสามารถควบคุมปัจจัยภายในได้ เราสามารถควบคุมความคิด ควบคุมความรู้สึก และอารมณ์ได้เสมอ

เหนื่อสิ่งอื่นใดคือ การควบคุมหัวใจตัวเอง อันดับแรกคือ ต้องกล่าวชื่นชมตัวเอง ขอบคุณตัวเราเองเพราะถึงแม้เราจะจัดการปัญหานั้นไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำมันอย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเกิด

อย่าเอาแต่นั่งโทษตัวเองเพราะมันไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย ในทางกลับกันจะยิ่งทำให้สุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจเราแย่ลง

สำหรับใครที่กำลังเครียด หรือวิตกวังวลไม่ว่าจะด้วยเรื่องใดๆ ก็ตาม ลองทำตามทั้ง 4 วิธีนี้ เชื่อว่าจะทำให้ความเครียดนั้นเบาบางลงอย่างแน่นอน ที่สำคัญจะช่วยให้ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจของเราดีขึ้น

ชีวิตคนเรามีสุขมีทุกข์ปะปนกันไป เมื่อทุกข์ได้ ก็สุขได้เช่นเดียวกัน ชีวิตยังต้องเจออะไรอีกมากมายหลายอย่าง จงให้ชีวิตอย่างมีสติและดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท แล้วสิ่งดีๆ จะเข้ามาหาคุณเอง