ขึ้นชื่อว่า “บ้าน” จะหลังเล็กหรือหลังใหญ่ ก็ล้วนแล้วแต่สร้างความสุขและปลอดภัยแก่ผู้อยู่อาศัย และสิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าบ้านของเราน่าอยู่และปลอดภัยจริงหรือไม่นั้น ดูได้จากความสะอาดภายในบ้านค่ะ
โลกเราตอนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปมาก มีเชื้อโรคใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะมาจากฝุ่นละอองหรือมาจากสัตว์ ก็ล้วนแล้วส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราทั้งนั้น ดังนั้นเราจึงพยายามหาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาเพื่อทำความสะอาดบ้านให้ปลอดจากโรคที่แฝงมาโดยที่เราไม่รู้ตัว
แต่ทว่า เราไม่ทันฉุกคิดว่า โรคต่าง ๆ ที่ว่านั้นอาจจะเกิดขึ้นจากการใช้สารเคมีในการทำความสะอาดบ้านของเราก็ได้ค่ะ มันจะดีสักแค่ไหน หากบ้านที่เราอยู่ตอนนี้จะปราศจากสารเคมี
เชื่อแน่ว่าหลายคนเคยทดลองกับตัวเองที่จะใช้สารเคมีในการทำความสะอาดให้น้อยที่สุด โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า “ออร์แกนิค” ติดอยู่บนฉลาก แต่เราจะแน่ใจได้แค่ไหนว่าผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อเป็นสินค้าออร์แกนิคแท้ ๆ แน่นอนว่า ทำได้ยากมาก
ดังนั้น เรามีวิธีที่ง่ายกว่านั้น นั่นคือเคล็ดลับดี ๆ ในการทำความสะอาดบ้านทั้งหลัง โดยไม่ใช้สารเคมี มาแนะนำกันค่ะ
หลักการในการทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบปลอดสารเคมีนั้น เราควรตระหนักไว้ว่า จะต้องไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้มากกว่าปัญหาที่เรากำลังแก้อยู่ นั่นแปลว่า เราจะทำผลิตภัณฑ์อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่เพิ่มปัญหาพอ ๆ กับตอนที่เราใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารเคมีนั่นเอง
เริ่มกันที่น้ำยาทำความสะอาดเอนกประสงค์ ให้เรานำน้ำอุ่นในปริมาณที่เต็มถังผสมเข้ากับน้ำยาล้างจานสูตรไร้สารเคมี หรือน้ำส้มสายชู ก็สามารถขจัดรอยเปื้อนที่ติดตามตู้ ตามผนัง ภายในตู้เย็น รวมถึงพื้นผิวที่มีความแข็งภายในบ้านได้อย่างสะอาดอ่อนโยน
ถัดมาคือ หน้าต่าง เราสามารถใช้สเปรย์น้ำส้มสายชูเอามาเจือจางด้วยน้ำอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง น้ำส้มสายชูสามารถเช็ดคราบสกปรกที่ฝังแน่นตามขอบหน้าต่าง และยังช่วยให้กระจกหน้าต่างใสสะอาดขึ้นอีกด้วย
มู่ลี่ เป็นอีกสิ่งของหนึ่งที่กักเก็บฝุ่นได้ดีมาก เนื่องจากความเป็นซี่ ๆ ทำให้ฝุ่นเข้าไปอยู่ได้ง่าย และลำบากในการทำความสะอาดในแต่ละครั้ง แต่เราก็ยังมีวิธีที่จะทำความสะอาดเจ้านี้ได้อย่างปลอดภัย ด้วยการ ใช้น้ำยาล้างล้างสูตรธรรมชาติผสมกับน้ำส้มสายชูเพียงเล็กน้อย ค่อย ๆ เช็ดไปตามซี่มู่ลีเบา ๆ แล้วจึงใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดออก เท่านี้มูลี่ก็จะกลับมาสะอาดสดใสดังเดิมแล้ว
มาถึงส่วนที่สำคัญ อย่าง พื้นของบ้าน เรียกได้ว่า เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านก็ว่าได้ และยังเป็นพื้นที่ที่ต้องเจอกับความสกปรกสารพัดรูปแบบ
แน่นอนว่า หากเราใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นสารเคมีถูพื้นบ้านของเราบ่อย ๆ เราก็ต้องสูดสารเคมีเหล่านั้นมากตามไปด้วยค่ะ ทีนี้เราเลยขอแนะนำการทำความสะอาดพื้นกระเบื้องและพื้นไม้ลามิเนต น่าจะเป็นพื้นประเภทที่หลาย ๆ บ้านใช้กันนะคะ
เราสามารถใช้น้ำส้มสายชูกับน้ำมันหอมระเหยเพียงเล็กน้อย นำมาผสมกับน้ำอุ่น 1 ถัง หากใครกังวลเรื่องกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู ไม่ต้องกังวลใจไป เนื่องจากเมื่อพื้นแห้ง กลิ่นของน้ำส้มสายชูจะหายไปเอง และจะมีเป็นกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่เราผสมไปในตอนต้นเข้ามาแทน
ที่นอนและเบาะนั่ง วิธีการทำความสะอาด ไม่ยากเลยค่ะ โดยการใช้ผงฟูนำไปใส่ในขวดเกลือ หรือโหลแก้วที่มีฝาเจาะรู ผสมน้ำมันสกัดกลิ่นที่เราชอบ (แต่ถ้าหากเป็นน้ำมันกลิ่นลาเวนเดอร์ก็จะช่วยให้หลับสบาย หรือจะเป็นน้ำมันต้นทีทรีก็สามารถลดแมลงได้) ซึ่งเราจะนำมาฉีดลงบนที่นอนหรือเบาะนั่ง และทิ้งเอาไว้สัก 1 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาก็ทำการเช็ดออก
อ่างล้างจาน เชื่อแน่ว่าจุดนี้เป็นจุดที่สร้างความปวดหัวให้แม่บ้านไม่น้อยเลยค่ะ เพราะต้องเจอคราบสิ่งสกปรกจากอาหาร ทั้งคราบไขมัน คราบเศษอาหารต่าง ๆ ที่หากล้างไม่ดีแล้วนั้นย่อมก่อให้เกิดโรคตามมา วิธีทำความสะอาด เราใช้พระเอกแห่งการทำความสะอาด อย่างน้ำส้มสายชูนำมาผสมกับเบกกิ้งโซดา แล้วใช้ผ้าหรือฟองน้ำนุ่มขัดที่อ่างให้สะอาด รับรองว่าหลังการขัด คุณจะได้อ่างที่ใสปิ๊ง เหมือนใหม่
ต่อมาที่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไมโครเวฟ ที่ทุกบ้านต้องมี และต้องเจอปัญหาเดียวกันคือ คราบอาหารที่กระเด็นติดรอบ ๆ เครื่อง ให้ใส่น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย โดยใช้ถ้วยที่นำเข้าไมโครเวฟได้นะคะ และปรับความร้อนสูงสุดจนน้ำส้มสายชูเดือดและเคลือบด้านในไมโครเวฟไว้ พักไว้ 3 นาที จากนั้นค่อย ๆ นำถ้วยออก แล้วใช้ผ้าหรือกระดาษเช็ดครัวเช็ดพื้นผิวจนสะอาด วิธีนี้เป็นวิธีที่ถูกการันตีว่าทำง่ายและได้ผลจริง
และอีกหนึ่งที่ที่พลาดไม่ได้ในการทำความสะอาด คือ เครื่องสุขภัณฑ์ แหล่งรวมเชื้อโรคที่ตาเรามองไม่เห็น ในส่วนของอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้า แนะนำให้เปิดน้ำร้อนจนเกือบจะเต็มอ่าง จากนั้นเอาน้ำส้มสายชู 3 ถ้วยตวง มาผสมให้เข้ากันดี และทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วจึงใช้ฟองน้ำขัดคราบสกปรกออกไป ก่อนที่จะปล่อยน้ำที่ชะล้างสิ่งสกปรกไป แล้วจึงเปิดน้ำใหม่เพื่อทำความสะอาดอีกรอบค่ะ
เห็นไหมล่ะคะ ว่าการจะทำความสะอาดบ้านทั้งหลังโดยไม่พึ่งสารเคมีใด ๆ เลย สามารถทำได้ด้วยข้าวของภายในบ้านของเราเอง แรก ๆ อาจจะยังไม่คุ้นชิ้นนัก แต่หากได้ทำเป็นประจำ รับรองว่าทั้งง่ายและสะดวก แถมยังปลอดภัยต่อทุกคนในบ้านอีกด้วย ถ้าอย่างไร ขอให้สนุกกับการทำความสะอาดนะคะ