6 สัญญาณเตือนว่า คุณเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับหูแล้ว

คุณขอให้คนอื่นพูดซ้ำเป็นประจำหรือเปล่า? คนในบ้านบ่นคุณเรื่องที่เปิดทีวีเสียงดังเกินไปหรือไม่? ไม่แน่นะ คุณอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับหูและการได้ยินแล้วล่ะ

ปัญหาการสูญเสียการได้ยินไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวัยสูงอายุ มีงานวิจัยพบว่าปัญหาการได้ยินนั้นเพิ่มขึ้นมากในวัยเด็ก

และยังมีคนหนุ่มสาวที่ประสบปัญหานี้ในอัตราที่สูงพอสมควร การสูญเสียการได้ยินทำให้คนเรามีปัญหาการสื่อสารและการเข้าสังคมไม่น้อย

เพราะว่าคุณจะไม่สามารถได้ยินหรือตอบโต้คนรอบข้างได้ ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด ไม่สามารถร่วมกิจกรรมการเข้าสังคมได้ดีนัก

นอกจากนี้คุณจะพบว่าตัวเองไม่ค่อยอยากสุงสิงกับโลกนี้อีกต่อไป ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองหรือคนรอบข้างเข้าข่ายหรือไม่

เรามาลองเช็คดู 6 สัญญาณที่ส่อว่าคุณเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับหูแล้ว

1. “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”

สัญญาณเตือนที่ชัดที่สุดว่าบุคคลนั้นๆอาจมีปัญหาการได้ยินแล้ว ก็คือการที่เขาขอให้คนอื่นพูดซ้ำอยู่บ่อยครั้ง นี่ไม่นับกรณีที่คนพูดพูดจางึมงัม บ่นพึมพัมอยู่คนเดียวนะ

แต่หมายถึงการที่เราได้ยินคนอื่นพูดจาไม่ชัดเจนทั้งๆที่เขาพูดชัดเจนปกติดีแล้ว โดยเฉพาะเสียงของผู้หญิงและเด็กที่มีลักษณะเสียงสูง คนที่เริ่มมีปัญหาการได้ยินอาจได้ยินไม่ชัด ในขณะที่ตัวเราเองประสบปัญหานี้

คนอื่นรอบข้างเราก็จะประสบปัญหาการสื่อสารกับเราด้วย เพราะว่าถ้าคุณไม่ค่อยได้ยินหรือไม่เข้าใจสิ่งอีกอีกฝ่ายพูด มันก็เกิดผลกระทบกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ และไม่นานมันอาจก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวได้ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆเชียว

2. ไม่ได้ยินแม้จะอยู่ในที่ๆเสียงดัง

เมื่อเราอยู่ในที่ๆเสียงอึกทึก ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องบิน รถยนต์ ในร้านอาหาร ในปาร์ตี้ หรือในที่ๆมีคนหมู่มากกำลังพูดคุยกัน คนที่มีปัญหาการได้ยินมักจะไม่ได้ยินหรือได้ยินน้อยมากในที่แบบนี้

ซึ่งถ้าเราไม่สามารถเข้าในหรือได้ยินคนอื่น เราจะไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น หรือแม้แต่ครอบครัวของเราได้ และนอกจากนี้มันยังมีผลกระทบต่อจิตใจของเราด้วย และทำให้คนที่มีปัญหาสูญเสียการได้ยินมักไม่ชอบหรือเบื่อหน่ายการเข้าสังคม

3. เปิดเสียงให้ดึงกระหึ่ม

ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเปิดเสียงโทรทัศน์หรือวิทยุให้ดังกระหึ่มลั่นบ้านเข้าไว้ และมักจะโดนคนในครอบครัวตำหนิเรื่องนี้เป็นประจำ ปัญหาอาจไม่ใช่เป็นที่ทีวีหรือวิทยุ แต่เป็นที่หูของคุณเอง

นี่คือลักษณะที่พบได้มากที่สุดของคนที่มีปัญหาการได้ยิน ดังนั้นถ้าคุณประสบปัญหานี้บ่อย จะเป็นการดีที่สุดถ้าจะไปหาหมอและเข้ารับการตรวจเช็คหู วัยรุ่นทั่วไปอาจชอบเปิดเพลงดังๆในไอพอดหรือเครื่องเล่นเพลงอื่นๆ

เพราะว่าพวกเขาสนุกกับจังหวะเพลง แต่การกระทำแบบนี้ก็สามารถก่อให้เกิดภาวะสูญเสียการได้ยินในวัยรุ่นเช่นกัน ไม่เกี่ยวกับว่าคนแก่ต้องเป็นเท่านั้น ดังนั้นใครที่ชอบเปิดเพลงเสียงดังๆจงระมัดระวังให้ดี เพราะก่อให้เกิดความเสี่ยงได้สูง

4. มีเสียงวิ๊งๆในรูหู

อาการที่เหมือนมีเสียงดังวิ๊งๆในรูหูมักเกิดหลังจากที่หูเราได้ยินเสียงที่ดังจนเกินไป แต่นั่นก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของอาการสูญเสียการได้ยิน ถ้าเกิดว่าอาการวิ๊งๆในหูไม่หายไปเสียที ให้ลองไปตรวจเช็คการได้ยินดูจะดีที่สุด

มีการศึกษาคนที่มีปัญหาการได้ยิน 500 คน พบว่า 43% ของจำนวนคนไข้เคยประสบกับภาวะมีอาการวิ้งๆในหูมาก่อน ซึ่งถ้ามีเด็กในครอบครัวที่มีอาการแบบนี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก

ดังนั้น ถ้าเกิดว่าเด็กหรือคนในบ้านเคยบ่นเรื่องการได้ยินเสียงวิ้งในรูหู, มีอาการปวดหู หรือว่ามีปัญหาการได้ยิน ได้ยินเสียงไม่ค่อยชัดเจน ให้รีบนำไปตรวจเช็คการได้ยินอย่างเร็วที่สุด

5. เสียงต่างๆที่เคยได้ยินขาดหายไป

คุณอาจไม่เคยตระหนักว่าสัญญาณที่ชัดเจนแดงแจ๋ที่สุดของการสูญเสียการได้ยินคือ การไม่ได้ยินเสียงต่างๆที่เคยได้ยินทุกวัน

ครั้งสุดท้ายที่คุณได้ยินเสียงนกร้องนอกหน้าต่างคือเมื่อไหร่? คุณตั้งนาฬิกาปลุกและนอนหลับเพลินไม่ได้ยินเสียงปลุกหรือเปล่า?

คุณไม่ได้ยินเสียงเตือนข้อความเข้าในโทรศัพท์อีกต่อไปตั้งๆที่ก็ตั้งเตือนมีเสียงปกติ? สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะสูญเสียการได้ยินก็ได้ ลองพิจารณาดูนะ

6. มีปัญหาเวลาคุยโทรศัพท์มือถือ

คนที่หูไม่ดีสามารถดูได้ง่ายๆ จากการคุยโทรศัพท์ของเขา เพราะว่าเสียงจากในโทรศัพท์มักจะไม่ค่อยชัดเจน อาจมีคลื่นแทรกหรือมีเสียงรบกวนจากภายนอกอยู่แล้ว

ถ้าคุณหรือคนที่คุณรู้จักมักหลีกเลี่ยงที่จะคุยโทรศัพท์ด้วยเหตุผลว่าได้ยินไม่ค่อยชัดเจนหรือฟังไม่รู้เรื่องอยู่บ่อยๆ โดยที่โทรศัพท์ไม่ได้มีปัญหา

ให้ลองปรึกษาคุณหมอและตรวจเช็คการได้ยินจะดีกว่า คนสูงอายุอาจไม่จำเป็นต้องคุยโทรศัพท์มากเท่าใดนัก

แต่ถ้ากรณียังหนุ่มสาวหรือวัยทำงาน การพูดคุยสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมากๆในเรื่องการทำงานและธุรกิจ อย่าปล่อยให้ภาวะนี้เรื้อรังจนต่อไปมันอาจรักษาได้ยาก

ปัญหาเรื่องการได้ยินไม่ใช่เรื่องหน้าอาย ถ้าเราเลือกที่จะได้รับการรักษา อย่าคิดว่ามันไม่สำคัญอะไร เพราะถ้าคุณยังอยากได้ยินคนที่คุณรักบอกรักหรือคิดถึงคุณ หรือไม่อยากพลาดโอกาสการทำงานที่ดีๆ ก็รีบทำการตรวจเช็คและรักษาอย่างถูกต้องจะดีกว่า