บล็อกสุขภาพ สาระเพื่อสุขภาพและชีวิต

Health

อาการตาแห้ง

อาการน้ำตาไหล ไม่ได้หมายถึงการร้องไห้เสมอไป อาจเป็นเพราะเรามีปัญหาด้านสายตาที่มีผลต่อน้ำหล่อเลี้ยงในตาก็ได้ ถ้ามีอาการนี้เกิดขึ้นกับเรา เช่น มีอาการตาแห้ง คัน รู้สึกถึงรอยขีดข่วนหรือปวดตา นี่อาจแปลได้ว่าอาจเจอกับปัญหาตาแห้งเข้าแล้ว

กระจกตาของคนเราจะเป็นรูปโดม มีพื้นผิวที่มองไม่เห็นปกคลุมในส่วนของตาที่เอาไว้ใช้ในการมองเห็นและควบคุมแสง ม่านตาและลูกตาดำ โดยกระจกตาจะทำหน้าที่ปกป้องดวงตาจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เชื้อโรคและเศษขยะ เพราะว่ามันต้องปกคลุมส่วนที่คอยรับแสงเอาไว้ เนื้อเยื่อส่วนนั้นจึงเป็นเหมือนทิชชู่ ไม่มีเส้นหลอดเลือดหรืออะไรที่จะสามารถปกป้องมันจากการติดเชื้อได้

แต่กระจกตาสามารถได้รับสารอาหารจากน้ำตาได้ ทุกครั้งที่เรากระพริบตา น้ำตาจะถูกสร้างขึ้นโดยต่อมน้ำตาและแผ่กระจายไปทั่วลูกตาของเรา และน้ำตานี้แหละที่ทำหน้าที่หล่อลื่นพื้นผิวด้านนอกทั้งหมดของลูกกะตา ช่วยให้กระจกตามีสุขภาพดีและสะอาด น้ำตายังสามารถช่วยล้างเอาสิ่งแปลกปลอมที่อาจก่อให้เกิดความเสียกายต่อกระจกตาออกไปด้วย ช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้น ลดการเสี่ยงติดเชื้อในดวงตา ในสถานการณ์เช่นมีผงปลิวเข้าตาหรือขนตาของเราเองหลุดเข้าไปในดวงตา น้ำตาของเราจะถูกผลิตขึ้นเพื่อช่วยขจัดสิ่งแปลกปลอมออกไป

อาการตาแห้งอาการตาแห้ง คือ เมื่อดวงตาของเราผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ

โรคตาแห้งเกิดขึ้นเมื่อ

  1. มีการผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ อาจจะด้วยเหตุผลบางประการ เช่น ต่อมน้ำตาอักเสบ ซึ่งจะทำให้น้ำตานั้นถูกผลิตออกมาไม่เพียงพอที่จะทำให้ดวงตาสุขภาพดีและไม่รู้สึกขุ่นเคือง
  2. น้ำตาที่ถูกผลิตออกมาไม่มีคุณภาพ น้ำตาของเราคือการผสมผสานของน้ำมัน น้ำและเมือก ซึ่งน้ำมันที่อยู่ในดวงตาของเรามีหน้าที่ปิดผนึกน้ำตาและป้องกันการระเหยของน้ำตา ก่อนที่กระจกตาของเราจะได้รับน้ำเลี้ยงเพื่อความชุ่มชื้นเพียงพอ ส่วนเมือกนั้นทำงานเพื่อให้น้ำตากระจายไปทั่วดวงตา และถ้าเราไม่สามารถผลิตน้ำมันหรือเมือกในน้ำตาได้เพียงพอ อาจเป็นสาเหตุของอาการตาแห้งได้ เพราะน้ำตาไม่มีคุณภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอ

อาการตาแห้ง ยังรวมถึง

  1. ความรู้สึกมีอะไรกัดๆหรือเผาไหม้ในดวงตา
  2. ความรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในดวงตา
  3. เกิดความรำคาญหรือเจ็บปวดในดวงตา
  4. สายตาเบลอ มองไม่ชัด มองเห็นภาพซ้อน
  5. สายตาเมื่อยล้า อาจเพราะอ่านหนังสือหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน

สาเหตุของอาการตาแห้ง

อายุคือหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่พบมากที่สุดของอาการตาแห้ง ที่จริงแล้ว อาการตาแห้งเป็นเรื่องปกติเมื่ออายุมากขึ้น มีคนอเมริกันเกือบ 5 ล้านคนในช่วงอายุ 50 ขึ้นไป ที่มีปัญหาตาแห้ง และมากกว่า 3 ล้านคนในนั้นเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนและผู้หญิงที่กำลังเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนเวลายังมีอัตราการเกิดอาการตาแห้งมากกว่าปกติอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ เช่น

  1. การทานยาบางชนิด ก็สามารถทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ เช่น ยาลดภาวะซึมเศร้า ยาความดันโลหิต เป็นต้น
  2. อาการป่วย เช่น คนป่วยที่มีปัญหาดวงตาหรือเปลือกตาติดเชื้อโรค หรือเกิดการอักเสบ ก็สามารถนำไปสู่ภาวะตาแห้งได้ นอกจากนี้คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ไขข้ออักเสบ ต่อมไทรอยด์ ยังมีความเสี่ยงเพิ่มเติมที่จะเป็นโรคตาแห้งมากขึ้น หรือบางคนอาจจะมีภาวะได้รับวิตามินมากเกินไปหรือขาดวิตามินจึงทำให้มีผลต่อดวงตาด้วย
  3. ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น อยู่ในสถานการณ์ที่มีหมอกควันมาก อากาศแห้งหรือมีลม ก็สามารถทำให้ดวงตาของเราแห้งกว่าปกติได้ การใช้คอมพิวเตอร์นานๆหรือดูทีวีนานๆก็ทำให้ตาแห้งได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรกระพริบตาบ่อยๆเพื่อให้น้ำตาลดความระคายเคืองในดวงตา
  4. การใส่คอนแทคเลนส์ เพราะคอนแทคเลนส์ทำให้ตาแห้งได้ นอกจากนี้คนที่ทำการเลเซอร์ดวงตาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาก็สามารถประสบปัญหาตาแห้งได้เช่นกัน เพราะเกิดการเปลี่ยนรูปร่างกระจกตา ซึ่งมีผลต่อการกระจายของน้ำตา

สำหรับคนที่มีปัญหาตาแห้งก็อาจใช้น้ำตาเทียมในการช่วยให้ดวงตาของเราชุ่มชื่นขึ้น แต่สำหรับคนที่เป็นมากควรได้รับตรวจวินิจฉัยและการรักษาจากจักษุแพทย์ต่อไป