ถั่งเช่าจัดเป็นยาสมุนไพรจีนโบราณหลายพันปี สายพันธุ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นสายพันธุ์ที่มีคุณภาพดีที่สุด ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ “Cordyceps Sinensis” หายาก และราคาแพง เพราะถั่งเช่าธรรมชาติจะขึ้นได้เฉพาะในพื้นที่เทือกเขาสูง ในสภาพอากาศเย็นจัดและชื้นจัด ซึ่งพื้นที่ที่ขุดพบถั่งเช่าคือบริเวณเทือกเขาหิมาลัย ของประเทศจีน ทิเบต เนปาล ภูฏาน
ถั่งเช่า เป็นสมุนไพรรูปร่างน่าตาประหลาด เป็นลูกครึ่งระหว่างหนอนกับพืช ในภาษาจีนชื่อ ” ตังถั่งเช่า” แปลว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” หรือที่ไทยเรียกสั้นๆว่า “หญ้าหนอน”
วัฏจักรการเกิดของถั่งเช่าเริ่มจาก
-ตัวหนอนจำศีลหนีความหนาวเย็นอยู่ใต้ดินภูเขาหิมะ เมื่ออากาศเริ่มอุ่น น้ำแข็งเริ่มละลาย สปอร์เห็ดที่พัดมาอยู่บนน้ำแข็งก็ตกไปสู่พื้นดิน หนอนที่อยู่ใต้ดินจึงมากินสปอร์เห็ดนั้น
-เมื่อฤดูร้อนอุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้นอีก สปอร์ได้เจริญเติบโตภายในตัวหนอนโดยอาศัยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุจากหนอนนั้นช้าๆ และสร้างเส้นใยส่วนหนึ่งให้งอกออกจากท้องและปากของตัวหนอน
-เมื่อเห็ดต้องการแสงอาทิตย์มากขึ้น จึงบังคับสมองของหนอนให้ไต่ขึ้นมาจากดินมากขึ้น เพื่อให้เห็ดยื่นส่วนของมันขึ้นมาจากดินรับแสงได้ เมื่อเห็ดโตเต็มที่ ตัวหนอนก็จะค่อยๆตายไป
สรรพคุณของถั่งเช่า
สรรพคุณของถั่งเช่ามีมากมาย แต่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในคนอย่างเป็นระบบยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นแค่กรณีศึกษา เช่น
-มีฤทธิ์ต่อการกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มจำนวนสเปิร์มในเพศชาย และเพิ่มความต้องการทางเพศของเพศชายและหญิงได้
-มีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว (Natural Killer Cell )
-มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยการให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานถั่งเช่า ปริมาณ 3กรัม/วัน พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95%
-มีฤทธิ์ต่อการฟื้นฟูระบบการทำงานของไต โดยให้ผู้ป่วยไตเรื้อรังรับประทานถั่งเช่าปริมาณ3-5 กรัม/วัน พบว่าการทำงานของไตมีประสิทธิภาพมากขึ้น และถ้าทานต่อเนื่อง 1เดือน จะสามารถลดอาการแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดจากไตวายได้เช่น ลดความดันโลหิต ลดระดับโปรตีนในปัสสาวะ ลดการเกิดภาวะโลหิตจาง
นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในสัตว์ทดลอง เช่น กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ต้านมะเร็ง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ปกป้องไตและตับ ต้านอนุมูลอิสระ
ผลข้างเคียงของถั่งเช่า
ถึงแม้ถั่งเช่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากใช้ไม่ถูกก็สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น
– มีฤทธิ์เสริมยาปฏิชีวนะอาจให้ผลมากเกินไป
-ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่ได้ยาป้องกันเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ,ผู้ที่เป็นแผลขนาดใหญ่ หรือผู้ที่กำลังจะผ่าตัด, ผู้ที่แพ้เห็ด ,ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ,หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
วิธีการรับประทานถั่งเช่า คือ ทานสด, ต้มน้ำ หรือบดเป็นผงใส่แคปซูล
เนื่องจากถั่งเช่ามีประโยชน์และสรรพคุณมากมายทำให้ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงถั่งเช่าจำนวนมากตามความต้องการที่มากขึ้น ซึ่งจัดเป็นถั่งเช่าเหมือนกันแต่คนละสายพันธุ์ และประสิทธิ์ภาพยังสู้ถั่งเช่าธรรมชาติไม่ได้ และพบว่าบางชนิดกลับมีโลหะหนักปนเปื้อน
ดังนั้นการเลือกรับประทานถั่งเช่าควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนจะปลอดภัยที่สุด
Reference: Mahidol, Bangkok Hospital
Photo Credit: ooliiboo