ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera): ประโยชน์เพื่อความงามจากธรรมชาติ พร้อมหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

ว่านหางจระเข้ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Aloe barbadensis Miller) เป็นพืชสมุนไพรที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและมีการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และความงามมาตั้งแต่สมัยโบราณ

สารสำคัญที่พบในวุ้นใส (Gel) จากใบว่านหางจระเข้ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลายชนิด เช่น พอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) โดยเฉพาะ Acemannan, วิตามิน (A, C, E, B complex), เอนไซม์, แร่ธาตุ, กรดอะมิโน, สารกลุ่มแอนทราควิโนน (Anthraquinones) และกรดซาลิซิลิก (Salicylic acid) ซึ่งสารเหล่านี้มีส่วนช่วยในสรรพคุณด้านความงามต่างๆ ดังนี้


1. การบำรุงผิวพรรณ (Skin Care)

  • เพิ่มความชุ่มชื้น (Moisturizing): วุ้นว่านหางจระเข้มีสารกลุ่มมิวโคพอลิแซ็กคาไรด์ (Mucopolysaccharides) ซึ่งช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือขาดน้ำ [1, 2] การศึกษาพบว่าสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวหนัง Stratum corneum ได้ [3]
  • ลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว (Anti-inflammatory & Soothing): สารประกอบ เช่น C-glucosyl chromone และ Salicylic acid มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ [2, 4] จึงนิยมใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนหลังจากโดนแดด (Sunburn), อาการแพ้, หรือการระคายเคืองต่างๆ
  • ส่งเสริมการสมานแผลและลดรอยสิว (Wound Healing & Acne Scar Reduction): ว่านหางจระเข้กระตุ้นการทำงานของ Fibroblast ซึ่งสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยเร่งกระบวนการสมานแผล [1, 2] นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของสิว [4] และอาจช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิวได้
  • ต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย (Antioxidant & Anti-aging): วิตามิน C, E และสารกลุ่มฟีนอลิก (Phenolic compounds) ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดและมลภาวะ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย [1, 5]

2. การบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ (Hair & Scalp Care)

  • บำรุงเส้นผมและเพิ่มความชุ่มชื้น: เอนไซม์ในว่านหางจระเข้ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนหนังศีรษะ และคุณสมบัติคล้ายเคราติน (Keratin) ช่วยบำรุงให้เส้นผมนุ่มลื่นและเงางามขึ้น [6]
  • ลดความมันและรังแค: เอนไซม์บางชนิดอาจช่วยย่อยสลายไขมันส่วนเกินบนหนังศีรษะได้ [6] นอกจากนี้ คุณสมบัติต้านเชื้อราและแบคทีเรียอาจช่วยควบคุมปัญหารังแคที่เกิดจากเชื้อราบางชนิดได้ [4]
  • ปลอบประโลมหนังศีรษะ: ฤทธิ์ลดการอักเสบช่วยบรรเทาอาการคันหรือระคายเคืองบนหนังศีรษะได้ [4]

ข้อควรระวังในการใช้:

  • เลือกใช้เฉพาะส่วนวุ้นใส: ยางสีเหลือง (Latex) ที่อยู่ใต้เปลือกนอกมีสารกลุ่มแอนทราควิโนน เช่น Aloin ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้ในบางคน ควรล้างยางสีเหลืองออกให้หมดก่อนนำวุ้นมาใช้ [1, 2]
  • ทดสอบการแพ้: ก่อนใช้กับบริเวณกว้าง ควรทดสอบทาที่ท้องแขนทิ้งไว้สักครู่ เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่

ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่มีประโยชน์หลากหลายด้านความงาม โดยมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิดที่ได้รับการยืนยันสรรพคุณจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทั้งในด้านการให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบ สมานแผล บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกใช้ส่วนวุ้นใสอย่างถูกวิธีและทดสอบการแพ้ก่อนใช้เสมอ


เอกสารอ้างอิง (References):

  1. Surjushe, A., Vasani, R., & Saple, D. G. (2008). Aloe vera: A short review. Indian Journal of Dermatology, 53(4), 163–166. doi:10.4103/0019-5154.44785  
  2. Sánchez, M., González-Burgos, E., Iglesias, I., & Gómez-Serranillos, M. P. (2020). Pharmacological Update Properties of Aloe Vera and its Major Active Constituents. Molecules, 25(6), 1324. doi:10.3390/molecules25061324  
  3. Dal’Belo, S. E., Gaspar, L. R., & Maia Campos, P. M. B. G. (2006). Moisturizing effect of cosmetic formulations containing Aloe vera extract in different concentrations assessed by skin bioengineering techniques. Skin Research and Technology, 12(4), 241–246. doi:10.1111/j.0909-752x.2006.00155.x  
  4. Hekmatpou, D., Mehrabi, F., Rahzani, K., & Eghbali, A. (2019). The Effect of Aloe Vera Clinical Trials on Prevention and Healing of Skin Wound: A Systematic Review. Iranian Journal of Medical Sciences, 44(1), 1–9. PMID: 30666070; PMCID: PMC6330525.  
  5. López, A., de Tangil, M. S., Vega-Orellana, O., Ramírez, A. S., & Rico, M. (2013). Phenolic constituents, antioxidant and preliminary antiproliferative activity of Aloe vera. Natural Product Communications, 8(9), 1265-1268.  
  6. Vardy, D. A., Cohen, A. D., Tchetov, T., Ben-Amitai, D., & Nitzan, D. W. (1999). A double-blind, placebo-controlled trial of an Aloe vera (A. barbadensis) emulsion in the treatment of seborrheic dermatitis. Journal of Dermatological Treatment, 10(1), 7-11. doi:10.3109/09546639909055904 (ศึกษาเกี่ยวกับ Seborrheic Dermatitis แต่กล่าวถึงคุณสมบัติของเอนไซม์)